สมาคมสตรีอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

ข้อบังคับสมาคม

ข้อบังคับสมาคม ประจำปี 2560

ข้อที่ 1. สมาคมนี้มีนามว่า “สมาคมสตรีอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย ใช้อักษรย่อ ส.ส.อ.ท. ใช้ชื่อภาษาอังกฤษ The Thai Association of University Women ใช้อักษรย่อ TAUW

ที่ตั้งสำนักงาน

ข้อที่ 2. สำนักงานใหญ่ของสมาคมนี้ ตั้งอยู่ที่ 24 ซอย อ่อนนุช 28 ถนนสุขุมวิท 7 เขตสวนหลวง

วัตถุประสงค์

ข้อที่ 3. สมาคมนี้มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

       3.1 ส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีในการเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิกสาขาวิชาชีพต่าง ๆ กับองค์การอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนส่งเสริมสถานภาพของสตรีและยุวสตรีตามหลักสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ

       3.2 ส่งเสริมการศึกษาต่อเนื่องตลอดชีวิต สนับสนุนสมาชิกและสตรีให้สนใจเพิ่มพูนความรู้ เปิดโอกาสให้ไปศึกษาดูงาน ฝึกอบรม ทำวิจัย ประชุม สัมมนาและศึกษาต่อในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น

       3.3 พัฒนาแนวทางปฏิบัติเพื่อกระตุ้น สนับสนุนและส่งเสริมสมรรถภาพของสตรีไทยให้มีอำนาจตัดสินใจและแสดงออกถึงความเป็นผู้นำสังคมทุกระดับสู่การเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่สามารถขจัดหรือแก้ไขปัญหาอันเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสตรี

       3.4 เผยแพร่ความรู้ ความคิดเห็น และริเริ่มกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และจำเป็นแก่สังคม เพื่อพัฒนาชีวิตและคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพพลานามัย สิ่งแวดล้อม สร้างเครือข่ายสหสาขาวิทยาการ สนับสนุน ส่งเสริม สืบทอด และเชิดชูเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทย

       3.5 ส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือกับองค์การสตรี มหาวิทยาลัยในประเทศและต่างประเทศเพื่อมิตรภาพ เพื่อความก้าวหน้าของสตรี และพัฒนาคุณภาพชีวิต

       3.6 สนับสนุนให้มีสมาคมหรือชมรมสตรีอุดมศึกษาในส่วนภูมิภาค และให้มีสมาคมหรือชมรมสตรีอุดมศึกษาแห่งประเทศไทยฯ ในต่างประเทศ สำหรับชุมชนไทยในต่างแดน

       3.7 บำเพ็ญสาธารณกุศลตามโอกาส

       3.8 ร่วมกับมูลนิธิ ส.ส.อ.ท. ในวัตถุประสงค์ที่ตรงกัน ทั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

สมาชิกภาพ

ข้อที่ 4. สมาคมมีสมาชิก 2 ประเภท คือ

       4.1 สมาชิกประเภทองค์กร ได้แก่ชมรมสตรีอุดมศึกษาส่วนภูมิภาคและชมรมสตรีอุดมศึกษาไทยในต่างประเทศ ที่มีวัตถุประสงค์เดียวกันกับข้อ 3. และมีสมาชิกซึ่งมีคุณสมบัติตามที่ระบุในข้อ 4.2 ตามข้อบังคับนี้ ทั้งนี้ต้องมีจำนวนสมาชิกอย่างน้อย 15 คน         
       4.2 สมาชิกประเภทบุคคลมี 3 ประเภท คือ          
              4.2.1 สมาชิกสามัญ ได้แก่ สตรีผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งสหพันธ์สตรีมหาวิทยาลัยนานาชาติ (Federation of University Women) รับรอง
              4.2.2 สมาชิกสมทบ ได้แก่
                     1. สตรีที่กําลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา
                     2. สตรีที่ได้รับอนุปริญญาหรือเทียบเท่า
                     3. สตรีที่ได้รับปริญญาตรีกิตติมศักดิ์          
              4.2.3 สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ สตรีผู้ทรงเกียรติหรือคุณวุฒิ หรือมีอุปการคุณแก่สมาคมซึ่งคณะกรรมการอํานวยการเสนอให้เชิญเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ และได้รับมติเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ด้วยคะแนนเสียง 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม

ข้อที่ 5. สมาชิกประเภทบุคคล ผู้ประสงค์สมัครเป็นสมาชิก ยกเว้นสมาชิก ข้อ 4.2.3 ให้แสดงความจํานงโดยการกรอกข้อความในใบสมัครสมาชิกประเภทบุคคล เสนอต่อเลขาธิการสมาคม โดยมีสมาชิก สามัญหนึ่งคนลงนามรับรอง ว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อบังคับ ให้คณะกรรมการอํานวย การพิจารณาบุคคลผู้สมัครเป็นสมาชิก โดยไม่คํานึง ถึงเชื้อชาติ ศาสนา หรือลัทธิความเชื่อ เมื่อคณะกรรมการอํานวยการพิจารณาเห็น สมควรรับเป็นสมาชิก ให้เลขาธิการแจ้งแก่ผู้สมัครทราม เป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการลงมติรับเป็นสมาชิก และได้ชําระค่าบํารุงแล้ว

ข้อที่ 6. สมาชิกประเภทองค์กร องค์กรที่มีคุณสมบัติตามข้อ 4.1 ให้แสดงความจํานงต่อคณะกรรมการของสมาคมสตรีอุดมศึกษาให้ชื่อว่า “ชมรมสตรีอุดมศึกษาจังหวัดนั้น)” หรือ “ชมรมสตรีอุดมศึกษาไทยใน (ประเทศนั้น) รัฐนั้น”

การสิ้นสุดของสมาชิกภาพ

ข้อที่ 7. สมาชิกภาพประเภทบุคคลย่อมสิ้นสุดเมื่อ
              7.1 ตาย         
              7.2 ลาออก     
              7.3 ถูกศาลสั่งให้เป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือเป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ      
              7.4 ประพฤติในทางที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสมาคม หรือนําความเสื่อมเสียมาสู่สมาคม และ 3 ใน 4 ของกรรมการอํานวยการทั้งคณะลงมติให้ออก
              7.5 ไม่ชําระค่าบํารุงเกินกว่า 3 ปี และเจ้าหน้าที่ทวงถามเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง และมิได้นํามาชําระภายในกำหนด 30 วัน

ข้อที่ 8. สมาชิกประเภทองค์กร สมาชิกภาพสิ้นสุดลงเมื่อสมาคมหรือชมรมนั้นไม่มีกิจกรรมใด ๆ เป็นเวลาติดต่อกันเกิน 1 ปีขึ้นไป

สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก

ข้อที่ 9. สมาชิกของสมาคมและชมรม(………………….) ย่อมมีสิทธิประดับเครื่องหมายของสมาคมได้

ข้อที่ 10. สมาชิกย่อมมีสิทธิเสนอความเห็น ไถ่ถามหรือขอดูหลักฐานบัญชีต่างๆ ของสมาคมได้ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการดําเนินงานตามวัตถุประสงค์ของสมาคม

ข้อที่ 11. สมาชิกสามัญเท่านั้นมีสิทธิออกเสียงในที่ประชุม

ข้อที่ 12. สมาชิกสามัญจำนวน 15 คน ขึ้นไป มีสิทธิที่จะร่วมกันเสนอให้คณะกรรมการจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อพิจารณาเรื่องรีบส่วน เกี่ยวกับกิจการของสมาคมได้ และคณะกรรมการอํานวยการจะต้องจัดประชุมใหญ่ภายใน 45 วัน

ข้อที่ 13. สมาชิกย่อมมีสิทธิได้รับประโยชน์ต่างๆ จากการจัดกิจกรรมของสมาคม

ข้อที่ 14. สมาชิกประเภทบุคคลมีหน้าที่ชําระค่าบํารุงให้แก่สมาคมหรือชมรมที่ตนสังกัด ตามอัตราดังต่อไปนี้
              14.1 สมาชิกสามัญ เสียค่าบํารุงรายปี ปีละ 100 บาท หรือเสียค่าบํารุงครั้งเดียว 1,000 บาท ถือว่าเป็นสมาชิกตลอดชีพ 
              14.2 สมาชิกสมทบ เสียค่าบํารุงปีละ 50 บาท หรือเสียค่าบํารุงครั้งเดียว 500 บาท ถือว่าเป็นสมาชิกตลอดชีพ

ข้อที่ 15. สมาชิกมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับ ช่วยเหลือกิจการและบําเพ็ญตนตามวัตถุประสงค์ของสมาคม

คณะกรรมการอํานวยการ

ข้อที่ 16. สมาคมนี้ ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ภายใต้การอํานวยการของคณะกรรมการคณะหนึ่ง ซึ่งมีจำนวน 21 คน เรียกว่า “คณะกรรมการอํานวยการ” ประกอบด้วย นายก อุปนายก 2 คนเลขาธิการ เหรัญญิก ปฏิคม บรรณารักษ์ นายทะเบียน วิเทศสัมพันธ์ และตำแหน่งอื่นๆ ตามความจําเป็นและเหมาะสม

ข้อที่ 17. วิธีการเลือกตั้งคณะกรรมการอํานวยการ ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งสมาชิกจำนวน 14 คน ด้วยการลงคะแนนลับ ให้คณะกรรมการอํานวยการที่ได้รับการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ แต่งตั้งสมาชิกสามัญที่เห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าร่วมเป็นกรรมการอีก 7 คน โดยให้มีผู้แทนจากมูลนิธิ ส.ส.อ.ท. 2 คน รวมอยู่ด้วย เป็นกรรมการอํานวยการ

ข้อที่ 18. ให้คณะกรรมการอํานวยการเลือกตั้งกันเอง เพื่อดำรงตำแหน่งต่างๆ เฉพาะตำแหน่งนายก และอุปนายกทั้ง 2 คน ต้องเป็นผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่

ข้อที่ 19. คณะกรรมการอํานวยการอยู่ในตำแหน่งว่าระละ 3 ปี กรรมการที่พ้นจากตำแหน่งแล้ว จะรับเลือกตั้งซ้ำอีกก็ได้ นายกสมาคมที่ตํารงตำแหน่งครบวาระแล้ว จะได้รับเลือกตั้งซ้ำอีกก็ได้ แต่ให้อยู่ในตำแหน่งไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน ยกเว้นในกรณีที่มีการดำรงตำแหน่งในวาระแรกไม่ถึง 1 ปี ก็ให้มีโอกาสรับเลือกเป็นวาระที่ 3 ได้

ข้อที่ 20. ถ้าตำแหน่งกรรมการอํานวยการว่างลงเพราะเหตุอื่น นอกจากถึงคราวออกตามวาระ ในกรณีที่ตำแหน่งนั้นเป็นของกรรมการที่ได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ ให้ผู้ที่ได้รับคะแนนนิยมอันดับถัดไปจากที่ได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ ให้เข้าเป็นกรรมการแทน แต่ถ้ากรรมการว่างลงนี้ เป็นกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้ง ก็ให้คณะกรรมการแต่งตั้งสมาชิกสามัญผู้มีคุณวุฒิเหมาะสมเป็นกรรมการแทน ผู้ที่เป็นกรรมการแทนย่อมอยู่ในตำแหน่งเพียงวาระของผู้ที่ตนแทนเท่านั้น

ข้อที่ 21. กรรมการอํานวยการพ้นจากตำแหน่งในกรณีต่อไปนี้         
              21.1 ถึงคราวออกตามวาระ               
              21.2 ตาย    
              21.3 ลาออก
              21.4 พ้นจากสมาชิกภาพของสมาคม

ข้อที่ 22. คณะกรรมการอํานวยการมีหน้าที่         
              22.1 บริหารตามนโยยายอันอยู่ในวัตถุประสงค์ของสมาคมและตามมติที่ประชุม     
              22.2 แต่งตั้งประธานโครงการ ประธานฝ่าย กรรมการพิจารณาเฉพาะเรื่องพร้อมทั้งติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของประธานฝ่าย และประธานโครงการต่าง ๆ       
              22.3 จัดประชุมใหญ่และเสนอนโยบาย เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณา 
              22.4 จัดประชุมคณะกรรมการอํานวยการอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง         
              22.5 ส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงานของชมรม (………….)    
              22.6 พิจารณาและรับรองการเงินที่เหรัญญิกเสนอ

ข้อที่ 23. คณะกรรมการอํานวยการมีสิทธิที่จะวางระเบียบในการปฏิบัติใดๆ ตามที่เห็นสมควร ภายใต้ข้อบังคับและวัตถุประสงค์ของสมาคม

ข้อที่ 24. คณะกรรมการอํานวยการมีสิทธิที่จะแต่งตั้งที่ปรึกษา เพื่อให้คําแนะนําและความคิดเห็น และแต่งตั้งกรรมการ อนุกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ประจำ เพื่อปฏิบัติงานตามความจําเป็นและเหมาะสมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสมาคม

ข้อที่ 25. องค์ประชุมของคณะกรรมการ ต้องประกอบด้วยกรรมการอย่างน้อยหนึ่งในสาม แต่ในกรณีที่มีข้อผูกพันการจ่ายเงินตั้งแต่ 5,000 บาท ขึ้นไป องค์ประชุมต้องประกอบด้วยกรรมการไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการอํานวยการ

ข้อที่ 26. กรรมการอํานวยการทุกคน ยกเว้นนายกและอุปนายก มีสิทธิ์ตั้งสมาชิกสามัญผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้แทนในการประชุมคณะกรรมการอํานวยการ ในเมื่อมีเหตุจำเป็นมาประชุมเองไม่ได้ และผู้แทน ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนน การตั้งผู้แทนเข้าประชุมให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรถึงเลขาธิการหรือนายกสมาคม

ข้อที่ 27. คณะกรรมการอํานวยการอาจแต่งตั้งสมาชิก ซึ่งอยู่ในสาขาวิชาชีพต่างๆ เป็นผู้แทนสาขาวิชาชีพนั้น ๆ เพื่อทำหน้าที่ประสานงานและให้ข้อคิดเห็น ที่ปรึกษาหรือกรรมการ หรืออนุกรรมการอยู่ในตำแหน่งเท่าอายุของกรรมการอํานวยการที่แต่งตั้ง

ข้อที่ 28. ประธานโครงการที่ประสงค์จะแต่งตั้งกรรมการ หรืออนุกรรมการสำหรับช่วยปฏิบัติงาน ให้เสนอชื่อผู้ประสงค์จะแต่งตั้งคณะกรรมการอํานวยการเพื่อพิจารณาอนุมัติ

ข้อที่ 29. ให้คณะกรรมการอํานวยการแต่งตั้งผู้แทนสมาคมฯ จำนวน 2 คน เป็นกรรมการบริหารมูลนิธิสมาคมสตรีอุดมศึกษาฯ ตามวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการบริหารมูลนิธิสมาคมสตรีอุดมศึกษาฯ

ข้อที่ 30. ให้ประธานโครงการ หรือกรรมการที่ได้รับมอบให้รับผิดชอบปฏิบัติงานเรื่องใดโดยเฉพาะส่งมอบเอกสารเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับงานที่ปฏิบัติและการติดต่อให้แก่เลขาธิการสมาคมภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันพ้นหน้าที่ตามวาระเพื่อรวบรวมส่งมอบแก่คณะกรรมการอํานวยการชุดใหม่ต่อไป ในกรณีที่ประธานโครงการหรือกรรมการผู้รับผิดชอบก่อนหมดวาระ ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน

ข้อที่ 31. ให้นายกสมาคมที่พ้นตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นตามวาระหรือด้วยเหตุผลอื่นใด ส่งมอบเอกสารเกี่ยวกับการติดต่อและปฏิบัติงาน และบันทึกงานที่ทำค้างอยู่ส่งมอบให้คณะกรรมการอํานวยการชุดใหม่ภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่หรือวันที่พ้นตำแหน่งการประชุมใหญ่

การประชุมใหญ่

ข้อที่ 32. ให้มีวาระการประชุมใหญ่สามัญประจำปีในเดือนกุมภาพันธ์ องค์ประชุมต้องประกอบด้วยสมาชิกสามัญไม่น้อยกว่า 30 คน ถ้ามีสมาชิกมาประชุมไม่ครบองค์ประชุม ให้เรียกประชุมอีกครั้ง หลังจากกําหนดการประชุมครั้งแรกภายใน 15 วัน ในการประชุมครั้งที่ 2 ถ้ามีผู้มาประชุมไม่ครบ ให้ถือว่าเป็นองค์ประชุมได้ ในกรณีที่เป็นการประชุมใหญ่วิสามัญ ตามข้อบังคับที่ 12 ถ้ามีผู้มา ประชุมไม่ครบองค์ประชุม ให้ยกเลิกการประชุมนั้นได้

ข้อที่ 33. ให้คณะกรรมการอํานวยการกำหนด วัน เวลา สถานที่ และระเบียบวาระการประชุมแล้วแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้สมาชิกทราบทั่วกันล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน

ข้อที่ 34. ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี คณะกรรมการอํานวยการต้องรายงานกิจการ ที่ได้ปฏิบัติภายในรอบปีที่ผ่านมาตอบข้อซักถามของสมาชิก เสนอรายงานการเงินและงบดุลของสมาคม เสนอที่ ประชุมใหญ่แต่งตั้งผู้สอบบัญชี และพิจารณาเรื่องอื่นๆที่เป็นข้อเสนอตามระเบียบวาระการประชุม และดำเนินการเลือกตั้งคณะกรรมการอํานวยการ ชุดใหม่ในปีที่ต้องเลือกตั้งคณะกรรมการอํานวยการชุดใหม่

การเงิน

ข้อที่ 35. ให้คณะกรรมการอํานวยการร่วมกันรับผิดชอบดูแลรักษาทรัพย์สินและการเงินของสมาคม ตามระเบียบซึ่งคณะกรรมการอํานวยการจะได้ตราขึ้นด้วยความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่

ข้อที่ 36. ให้คณะกรรมการอํานวยการ จัดทำบัญชีการเงินและทรัพย์สินของสมาคม ตามหลักการบัญชีให้เป็นการถูกต้องและทันสมัยอยู่เสมอ

ข้อที่ 37. คณะกรรมการอํานวยการมีอำนาจจ่ายเงิน และร่วมกันรับผิดชอบในการจ่ายนั้นๆ ให้เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการเงิน โดยเคร่งครัด นายก หรืออุปนายก และเหรัญญิกหรือเลขาธิการเป็นผู้ ลงนามเบิกจ่าย

การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับ

ข้อที่ 38. ข้อบังคับนี้จะแก้ไขเพิ่มเติมได้ก็แต่โดยมติของที่ประชุมใหญ่ซึ่งมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกที่เข้าประชุม

การเลิกสมาคม

ข้อที่ 39. การลงมติเลิกสมาคม ต้องมีคะแนนเสียงเห็นซอยไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมด

ข้อที่ 40. ในกรณีเลิกสมาคมไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ให้ตั้งกรรมการขึ้นตรวจสอบบัญชี เว้นแต่ที่ประชุมลงมติให้เลิกสมาคมนั้นจะได้ลงเป็นอย่างอื่น และเมื่อชําระบัญชีแล้ว ถ้ามีทรัพย์สินเหลืออยู่ให้ให้แก่ องค์การที่มีวัตถุประสงค์คล้ายคลึงกันหรือองค์กรการกุศลอื่น ตามแต่ที่ประชุมใหญ่เห็นควร